ปูพื้นฐาน SEO สำหรับบล็อกเกอร์มือใหม่ เริ่มต้นจากศูนย์สู่ผู้เชี่ยวชาญ

มาเลยน้อง ! ใครว่า SEO มันยากเย็นเหมือนปีนเขาเอเวอเรสต์? สำหรับบล็อกเกอร์มือใหม่หัดเขียนอย่างพวกเราเนี่ย มันเหมือนการปลูกต้นไม้ ค่อยๆ รดน้ำ พรวนดิน เดี๋ยวมันก็โตให้ร่มเงาเองแหละ วันนี้พี่จะมาเล่าสู่กันฟังแบบบ้านๆ ให้เข้าใจง่ายๆ เลยว่า SEO เนี่ยมันคืออะไร

SEO (Search Engine Optimization) เนี่ย ถ้าพูดให้เข้าใจง่ายที่สุดเลยนะ มันก็คือ การปรับแต่งบล็อกของเราให้เป็นที่รักของ Google และบรรดา Search Engine ทั้งหลายนั่นแหละ ทำไมต้องทำให้เขารัก? ก็เพราะถ้า Google ชอบบล็อกของเรา เขาก็จะแนะนำบล็อกของเราให้กับคนที่กำลังค้นหาข้อมูลที่เราเขียนไงล่ะ! เหมือนเวลาเราอยากกินข้าวมันไก่ แล้วเพื่อนแนะนำร้านเด็ดๆ ให้ นั่นแหละฟีลเดียวกันเลย!

SEO สำคัญกับบล็อกเกอร์ยังไง? ไม่ทำได้มั้ย?

น้องอาจจะสงสัยว่า "พี่คะ หนูแค่อยากเขียนเล่าเรื่องสนุกๆ ไม่ได้อยากเป็นนักการตลาดดิจิทัลนี่นา ทำไมต้อง SEO ด้วย?" พี่เข้าใจเลย! แต่ลองคิดดูนะ ถ้าเราเขียนบทความดีมากๆ แต่ไม่มีใครหาเจอบน Google เลย มันก็น่าเสียดายเหมือนทำอาหารอร่อยๆ แต่ไม่มีใครได้ชิมใช่ไหมล่ะ?

SEO จะช่วยให้

  • มีคนอ่านบล็อกเรามากขึ้น เมื่อคนค้นหาข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับบทความเรา แล้วเจอเราในหน้าแรกๆ ของ Google โอกาสที่เขาจะคลิกเข้ามาอ่านก็สูงขึ้นมากๆ
  • ได้กลุ่มเป้าหมายที่ใช่ คนที่ค้นหาข้อมูล มักจะมีความสนใจในเรื่องนั้นๆ อยู่แล้ว นั่นหมายความว่าคนที่คลิกเข้ามาอ่านบล็อกเราก็มีแนวโน้มที่จะเป็นคนที่สนใจในสิ่งที่เรานำเสนอจริงๆ
  • สร้างความน่าเชื่อถือ บล็อกที่ติดอันดับต้นๆ ของ Google มักจะถูกมองว่าเป็นแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ ทำให้คนอ่านไว้วางใจในเนื้อหาของเรามากขึ้น
  • ต่อยอดไปสู่โอกาสอื่นๆ เมื่อบล็อกเรามีคนอ่านเยอะขึ้น เราอาจจะมีโอกาสในการสร้างรายได้อื่นๆ เช่น การโฆษณา การขายสินค้า หรือการ รับทำ SEO ให้คนอื่น (อันนี้ก็เป็นอีกสายงานที่น่าสนใจนะน้อง!)

เห็นไหมล่ะว่า SEO มันไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด แถมยังมีประโยชน์มากๆ

สเต็ปแรกสู่โลก SEO ค้นหา "คำสำคัญ" ให้เจอ

เหมือนเวลาเราจะไปไหน เราก็ต้องรู้ก่อนว่าจะไปที่ไหนใช่ไหม? การทำ SEO ก็เหมือนกัน สเต็ปแรกที่เราต้องทำความเข้าใจคือ "คำสำคัญ" (Keyword)

คำสำคัญคืออะไร? ทำไมต้องหา?

คำสำคัญ ก็คือ คำหรือวลีที่คนส่วนใหญ่มักจะใช้ในการค้นหาข้อมูลบน Google ยกตัวอย่างเช่น ถ้าน้องเขียนบล็อกเกี่ยวกับ "วิธีทำเค้กช็อกโกแลต" คำสำคัญที่คนอาจจะใช้ค้นหาก็เช่น "สูตรเค้กช็อกโกแลตง่ายๆ", "เค้กช็อกโกแลตอร่อยๆ", "วิธีอบเค้กช็อกโกแลต" เป็นต้น

ทำไมเราต้องค้นหาคำสำคัญ? ก็เพื่อที่จะได้รู้ว่าคนส่วนใหญ่เขาสนใจอะไร และใช้คำอะไรในการค้นหาข้อมูลที่เรากำลังจะเขียน เมื่อเรารู้คำสำคัญเหล่านี้แล้ว เราก็จะสามารถนำคำเหล่านั้นมาใส่ในบทความของเราได้อย่างเป็นธรรมชาติ เพื่อให้ Google รู้ว่า "อ๋อ! บล็อกนี้เขียนเกี่ยวกับเรื่องนี้ นี่เอง"

หาคำสำคัญยังไงดี? พี่มีทริค!

  • คิดเหมือนคนค้นหา ลองสวมบทบาทเป็นคนที่กำลังอยากรู้เรื่องที่เราจะเขียน แล้วลองคิดดูว่าเราจะใช้คำอะไรในการค้นหา
  • ใช้เครื่องมือช่วย มีเครื่องมือฟรีและเสียเงินมากมายที่ช่วยเราหาคำสำคัญได้ เช่น Google Keyword Planner (ต้องมีบัญชี Google Ads), Ubersuggest, หรือ AnswerThePublic ลองเข้าไปเล่นดู น้องจะเห็นไอเดียคำสำคัญเยอะแยะเลย
  • ดูจากคู่แข่ง ลองดูว่าบล็อกที่เขียนเนื้อหาคล้ายๆ กับเรา เขาใช้คำสำคัญอะไรกันบ้าง เราจะได้ไอเดียเพิ่มเติม
ลงมือเขียนให้ Google รัก ให้คนชอบ หัวใจสำคัญของ SEO

เมื่อเรารู้แล้วว่าจะเขียนเรื่องอะไร และควรจะเน้นคำสำคัญอะไร สิ่งที่สำคัญที่สุดต่อมาก็คือ การเขียนบทความที่มีคุณภาพ

เนื้อหาต้อง "โดน" อ่านแล้วได้ประโยชน์ ไม่ใช่แค่ยัดๆ คำ

จำไว้เลยนะน้อง "Content is King" คำนี้ยังใช้ได้เสมอ! Google ฉลาดขึ้นเยอะ เขาไม่ได้ดูแค่ว่าในบทความของเรามีคำสำคัญเยอะแค่ไหน แต่เขาดูด้วยว่าเนื้อหาของเรามันดีจริงไหม คนอ่านแล้วได้ประโยชน์หรือเปล่า

เคล็ดลับง่ายๆ ในการเขียนเนื้อหาคุณภาพ

  • ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์: ตอบคำถาม แก้ปัญหา หรือให้ความรู้ใหม่ๆ กับผู้อ่าน
  • เขียนในสิ่งที่เรารู้จริงและถนัด: passion ของเราจะถ่ายทอดออกมาในงานเขียน ทำให้บทความน่าสนใจมากขึ้น
  • เขียนให้เข้าใจง่าย: ใช้ภาษาที่เป็นกันเอง เล่าเรื่องให้สนุก เหมือนคุยกับเพื่อน
  • จัดระเบียบเนื้อหา: แบ่งเป็นหัวข้อ ย่อหน้า ใช้ตัวหนา ตัวเอียง เพื่อให้อ่านง่าย สบายตา
ใส่ "ป้าย" ให้ Google รู้ การใช้ Heading Tag (H1, H2, H3)

เวลาเราอ่านหนังสือ เราจะเห็นว่ามันมีการแบ่งเป็นบท หัวข้อใหญ่ หัวข้อรอง ใช่ไหม? ในบล็อกของเราก็เหมือนกัน เราต้องใช้ Heading Tag (H1, H2, H3, ...) เพื่อบอก Google ว่าส่วนไหนคือหัวข้อหลัก หัวข้อรอง

  • H1 : จะมีแค่ 1 ครั้งต่อหน้า เป็นหัวข้อหลักของบทความ เปรียบเหมือนชื่อหนังสือ
  • H2 : เป็นหัวข้อรองลงมา ใช้แบ่งเนื้อหาในหัวข้อหลัก
  • H3 : เป็นหัวข้อที่ย่อยลงไปอีก ใช้สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม

การใช้ Heading Tag อย่างถูกวิธี จะช่วยให้ Google เข้าใจโครงสร้างของบทความเราได้ง่ายขึ้น และรู้ว่าเนื้อหาส่วนไหนสำคัญที่สุด

แต่งหน้าให้บทความ : Title Tag และ Meta Description

Title Tag ก็คือชื่อบทความที่จะปรากฏบนหน้าผลการค้นหาของ Google ส่วน Meta Description คือคำอธิบายสั้นๆ ที่อยู่ใต้ Title Tag

    สองสิ่งนี้สำคัญมากๆ เพราะมันคือ "ป้ายประกาศ" ที่จะดึงดูดให้คนคลิกเข้ามาอ่านบทความของเรา ลองคิดดูว่าถ้าเราเจอผลการค้นหาหลายๆ อัน เราจะเลือกคลิกอันไหน? ก็ต้องเป็นอันที่ชื่อน่าสนใจและมีคำอธิบายที่บอกว่าข้างในมีอะไรที่เรากำลังอยากรู้นั่นแหละ!

เทคนิคการเขียน Title Tag และ Meta Description

  • ใส่คำสำคัญหลัก พยายามใส่คำสำคัญหลักของเราไว้ใน Title Tag และ Meta Description
  • เขียนให้น่าคลิก ใช้คำที่ดึงดูดใจ กระตุ้นความอยากรู้
  • สื่อถึงเนื้อหา บอกให้ชัดเจนว่าบทความนี้เกี่ยวกับอะไร
  • ความยาวพอเหมาะ Google มีจำนวนตัวอักษรที่แนะนำสำหรับ Title Tag และ Meta Description ลองหาข้อมูลเพิ่มเติมดูนะ
เชื่อมโยงให้เป็นใยแมงมุม Internal และ External Link

การใส่ลิงก์ในบทความของเราก็สำคัญไม่แพ้กัน มีอยู่ 2 แบบหลักๆ คือ

  • Internal Link คือการใส่ลิงก์ไปยังบทความอื่นๆ ในบล็อกของเราเอง เปรียบเหมือนการชวนคนอ่านให้สำรวจบล็อกเราต่อ นอกจากจะช่วยให้คนอ่านอยู่ในบล็อกเรานานขึ้นแล้ว ยังช่วยให้ Google Bot เข้ามาเก็บข้อมูลในบล็อกเราได้ทั่วถึงมากขึ้นด้วย
  • External Link คือการใส่ลิงก์ไปยังเว็บไซต์ภายนอกที่มีข้อมูลน่าเชื่อถือและเกี่ยวข้องกับเนื้อหาของเรา เป็นการแสดงว่าเราได้อ้างอิงแหล่งข้อมูลที่มีคุณภาพ ทำให้บล็อกของเราดูน่าเชื่อถือมากขึ้น
เครื่องมือช่วยงาน SEO สำหรับบล็อกเกอร์

ไม่ต้องกลัวว่าเราจะต้องทำทุกอย่างด้วยตัวเองนะน้อง! มีเครื่องมือมากมายที่จะช่วยให้ชีวิตบล็อกเกอร์ของเราง่ายขึ้นเยอะเลย เช่น

  • Google Search Console เป็นเครื่องมือฟรีจาก Google ที่ช่วยให้เราตรวจสอบประสิทธิภาพของบล็อกเราบน Google ได้ ดูว่ามีคนค้นหาคำอะไรแล้วเจอบล็อกเรา มีข้อผิดพลาดอะไรบ้างที่เราต้องแก้ไข
  • Google Analytics เป็นอีกเครื่องมือฟรีจาก Google ที่ช่วยให้เราวิเคราะห์ข้อมูลผู้เข้าชมบล็อกเราได้ เช่น จำนวนคนเข้าชม หน้าที่คนเข้าชมบ่อย เวลาที่คนใช้อยู่บนเว็บไซต์ เป็นต้น
  • ปลั๊กอิน SEO สำหรับ WordPress ถ้าใครใช้ WordPress ก็จะมีปลั๊กอิน SEO ดีๆ มากมายให้เลือกใช้ เช่น Yoast SEO หรือ Rank Math ที่จะช่วยแนะนำเราในการปรับแต่งบทความให้เป็นมิตรกับ SEO
เติบโตอย่างยั่งยืน SEO คือการเดินทางระยะยาว

น้องๆ จำไว้เลยว่า SEO ไม่ใช่เวทมนตร์ที่จะทำให้บล็อกของเราติดหน้าแรก Google ได้ในชั่วข้ามคืน มันต้องใช้เวลา ความสม่ำเสมอ และการเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา เหมือนการปลูกต้นไม้ที่เราต้องค่อยๆ ดูแล รดน้ำ พรวนดิน กว่ามันจะโตให้ร่มเงาเราได้ก็ต้องใช้เวลา

ถ้าเราตั้งใจ ปรับปรุงบล็อกของเราอย่างต่อเนื่อง ทำความเข้าใจหลักการ SEO และคอยติดตามข่าวสารใหม่ๆ ในวงการนี้ พี่เชื่อว่าบล็อกของน้องจะค่อยๆ เติบโตและเป็นที่รู้จักอย่างแน่นอน และถ้าวันไหนรู้สึกว่า SEO มันยากเกินไป ก็อย่าลืมนึกถึงบริการรับทำ SEO ที่พร้อมจะช่วยให้บล็อกของน้องปังได้เหมือนกัน